เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "ชารอน"

CHARACTER
อัพเดทเมื่อ : 23-Jun-23
game granado espada เกม

เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "ชารอน"

[ทวนความจำ]
          ตอนที่เราเดินทางไปยังหนองน้ำบาฮามาร์เพื่อไปตามหาฟริตซ์มาช่วยสนับสนุนการโจมตีเรือนจำจาควิน ก็ได้เจอกับผู้หญิงที่ทำงานกับขุนนางอิกอร์นีอย่าง "ชารอน" ซึ่งแท้จริงแล้ว นางเป็นสายของคอร์เทส และหวังจะมาลักพาตัวเซียร่า
          ซึ่งเธอนั้นมีสายเลือดของเทพเจ้าในทวีปใหม่ (หรือผู้วิเศษ) อยู่ คอร์เทสในเวลานั้นยังอยู่ในองค์กรสตราต้า วิสต้า และองค์กรนี้ก็ต้องการพลังของเทพเจ้าในทวีปใหม่ ดังนั้น เซียร่าเลยเป็นกุญแจสำคัญที่พวกคนในองค์กรต้องการตัวมามากที่สุด
          แต่ทว่าเราได้ขัดขวางแผนการของนางสำเร็จจนไม่สามารถลักพาตัวเซียร่าไปได้ อีกทั้งคอร์เทสก็ดันโดนมอนโตโรหักหลังจนมีสภาพกลายเป็นหิน ชารอนพยายามบุกเข้ามาช่วยคอร์เทสแต่ก็ไร้ผล (จากเควสท์ปลดล็อกตัวละคร เซลวา นอร์ท)
          และจากในเนื้อเรื่องของไวรอน ในที่สุดเราก็ได้เห็นภาพในอดีตแล้วว่า มอนโตโรได้หักหลังคอร์เทส โดยการทดลองเขาและสาปให้เขากลายเป็นปีศาจหินใต้ปราสาทลูซิเฟอร์ชั่วนิรันดร์ คำถามคือ แล้วหลังจากนั้น ชารอนล่ะอยู่ที่ไหน? ดูเหมือนเราอาจจะได้เบาะแสของเธอจากในเมืองไวรอนแห่งนี้เอง!

เควสท์นี้ผู้เล่นจะต้องเล่นเควสท์เหล่านี้มาก่อน
1) เควสท์เนื้อเรื่องหลัก ทำให้ถึง ไวรอน ตอนที่ 4 : ทลายอเวจี - วันชี้ชะตา
2) เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "เซลวา นอร์ท"
3) เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "นาร์" รวมทั้งเควสท์เสริมให้ครบ

4) เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "อาเนีย"
5) เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "เฮเลน่า"
6) เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "เอมิเลียด้านมืด"
7) เควสท์ปลดล็อกตัวละคร "เบียทริซ"

 

[1] ผู้หญิงประหลาด
NPC : หัวหน้ากองทหารไวรอน ฮิลตัน
สถานที่ : ไวรอน (พิกัด I-7)
เป้าหมาย : เจอผู้หญิงประหลาดป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้
รางวัล : (ไม่มี)


          หลังจากผู้เล่นเคลียร์เควสท์ทั้งหมดที่ลิสต์มา 7 ข้อข้างบนแล้ว (จะมีอันอื่นๆ อีกซึ่งในแต่ละบทความเควสท์จะบอกอยู่ว่าต้องไปทำอะไรบ้าง) ให้ผู้เล่นเข้ามาที่ไวรอน แล้วเควสท์นี้จะเด้งขึ้นมาเอง ให้ผู้เล่นไปพบฮิลตัน ตรงพิกัด I-7 (วาร์ปในเมืองมาที่ หอสังเกตการณ์คอร์เน็ต ได้เลย)
          เขาจะบอกว่าเขาเจอผู้หญิงแปลกๆ ที่พยายามเข้าไปในปราสาทที่ปิดตายในไวรอน เมื่อกองทหารไวรอนไปห้าม ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้เวทมนตร์แปลกๆ โจมตีใส่แล้วก็หนีไป เขาเลยอยากให้เราไปช่วยตรวจสอบหน่อยเผื่อผู้หญิงคนนั้นจะกลับมาอีกครั้งก็ได้
          เมื่อคุยจบแล้ว ให้ไปตรงพิกัด H-2 หรือบนสุดของเมืองไวรอน ซึ่งปรากฎว่าผู้หญิงคนที่ว่าก็คือชารอนนั่นเอง แม้ว่าเราจะถามอะไรไปเธอก็จะไม่ยอมบอกและบอกกับเราว่าอย่ามายุ่งเรื่องของเธอ ก่อนที่เธอจะหายไป


          ทิศทางที่เธอมุ่งหน้าไปนั้นคือปราสาทลูซิเฟอร์ สถานที่ที่คอร์เทสอยู่ในนั้น ให้ผู้เล่นไล่ตามเธอไป โดยให้ไปที่ คลังใต้ดินของปราสาทลูซิเฟอร์ พิกัด C-5 (แนะนำให้ไปทาง ทางเข้าปราสาทลูซิเฟอร์ > สวนแห่งความลับ แล้วจะมีทางเข้าไปในคลังสินค้าใต้ดิน มาทางนี้จะง่ายกว่าลงไปทางห้องทดลองใต้ดินที่วิ่งไกลกว่ามาก) ซึ่งตรงพิกีด C-5 ที่ว่า จะเป็นจุดที่ๆ คอร์เทสโดนมอนโตโรหักหลังและทำให้เขาถูกสาปติดที่นี่นั่นเอง



          เกมจะเข้าสู่ฉากภารกิจ เราได้ไล่ตามชารอนมาและก็บอกข่าวร้ายกับเธอว่า คอร์เทสนั้นได้ตายไปแล้ว เพราะถูกมอนโตโรหลอกใช้และสาปเขาจนกลายเป็นมอนสเตอร์ในที่แห่งนี้ ชารอนไม่เชื่อและคิดว่าเราฆ่าเขา เธอจึงได้เริ่มโจมตีพวกเรา ให้เอาชนะเธอให้ได้
          หลังจากเอาชนะเธอได้ เราได้บอกความจริงเธอไปอีกอย่างว่ามอนโตโร ผู้ที่ทำให้คอร์เทสเป็นแบบนี้ก็ได้ตายไปแล้วด้วยพลังของตระกูลเราและฟริตซ์ (แต่จริงๆ คือเบียทริซเป็นคนแอบมาฆ่าในตอนท้าย) ชารอนที่นอกจากจะรับไม่ได้ที่คอร์เทส คนสำคัญของเธอต้องตาย แถมศัตรูของคอร์เทสอย่างมอนโตโรก็ตายเพราะฝีมือพวกเราอีก เธอจึงแสดงความเกลียดชังกับพวกเราอย่างชัดเจน ก่อนที่เธอจะหนีไป

 

[2] Secret Story - สายฟ้าสีดำ
NPC : (ไม่มี)
สถานที่ : ไวรอน (พิกัด F-10)
เป้าหมาย : พาเบียทริซมาหาชารอน
รางวัล : (ไม่มี)
เงื่อนไข : ต้องมีตัวละคร "เบียทริซ" ในปาร์ตี้


          ให้ผู้เล่นเอาเบียทริซใส่ในทีมและให้เธอเป็นหัวหน้าทีม แล้วไปที่ไวรอน พิกัด F-10 (วาร์ปในเมืองไปที่ท่าเรือไวรอนได้เลย) ซึ่งเบียทริซจะมาพบกับชารอน และได้ย้ำบอกความจริงกับเธออีกว่า ราชินีเอสเพอร์รันซ่าของเวสปาโนล่า ได้ประกาศให้คอร์เทสเป็นคนหายสาบสูญแล้วแม้ความจริงเขาจะตายไปแล้ว ซึ่งเฮอร์นันเดช ตัวการทั้งหมดได้จงใจให้ประกาศแบบนี้เพื่อวางแผนยึดทรัพย์สินทั้งหมดของคอร์เทสไป หนึ่งในนั้นก็คือ "ก๊าสไฟลุก และ พลังของธาตุไฟ" ที่ดูเหมือนคอร์เทสสนใจสิ่งนี้อยู่
          แต่ถูกมอนโตโรแย่งชิงไปและสาปให้เขากลายเป็นมอนสเตอร์หินแบบนั้น (เพราะคอร์เทสเคยใช้ก๊าสไฟลุกทดลองกับตัวเองมาก่อน นั่นทำให้เขากลายร่างเป็นมอนสเตอร์ได้ด้วยเวทของมอนโตโร) เบียทริซแนะนำให้ชารอนพิสูจน์การตายของคอร์เทสให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดของคอร์เทส รวมทั้งก๊าสไฟลุกและธาตุไฟนั่นจะถูกเฮอร์นันเดชยึดไป และทำให้ตระกูลของคอร์เทส รวมทั้งภรรยากับลูกของเขาที่ยังอยู่ในเวสปาโนล่าเสียทรัพย์สินที่มีไปทั้งหมด เพราะไม่ใช่แค่เฮอร์นันเดชคนเดียวที่จ้องจะเอาผลประโยชน์ ขุนนางคนอื่นๆ ของเวสปาโนล่าก็ด้วย

          หลังจากนั้นให้ผู้เล่นไปที่พิกัด G-6 (ตรงที่มีหัวขโมยทักบินอยู่) โดยเบียทริซจะต้องเป็นผู้นำทีมอยู่ เกมจะเข้าสู่ฉากภารกิจ ซึ่งชารอนได้มาหาเบียทริซเพื่อทำตามคำแนะนำของเธอ หลักๆ ก็คือชารอนจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคอร์เทสเสียชีวิตไปแล้วเพื่อให้ทรัพ์สินทั้งหมดคืนสู่ตระกูลคอร์เทส ชารอนได้เผยด้วยว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นเด็กกำพร้าที่คอร์เทสได้ช่วยเลี้ยงดูเธอเอาไว้
          ดังนั้น เธอจึงยอมทำงานสกปรกทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณของคอร์เทส หนึ่งในเหตุการณ์นั้นก็คือ การที่คอร์เทสแอบทดลองลับหลังสตราต้า วิสต้า เพื่อพยายามเข้าถึงพื้นที่ของพระเจ้าโดยการลักพาตัวเซียร่า ผู้ที่มีเชื้อสายของเทพเจ้าไปในตอนบาฮามาร์ (แต่ก็ล้มเหลวเพราะพวกเรากับฟริตซ์ได้มาขัดขวางเอาไว้)

          เบียทริซเสนอให้ชารอนเข้าร่วมตระกูลเรา เพราะตระกูลเรากำลังตามหาพลังของธาตุทั้งห้าอยู่ ซึ่งคอร์เทสได้ทดลองพลังที่เกี่ยวกับธาตุทั้งห้าอยู่และสำเร็จด้วย นั่นก็คือ "โรโดไลท์ ธาตุแห่งไฟ" ซึ่งปัจจุบันอยู่ในพื้นที่เออร์รัคและยังหาไม่พบ หากชารอนขอเข้าร่วมตระกูลเรา เธอจะสามารถร่วมมือกับเอมิเลีย ที่กำลังค้นหาความจริงอยู่ (จากการที่เธอรู้ความจริงของพ่อตัวเองเมื่อ 20 ปีก่อน)
          แต่ชารอนก็สงสัยว่าการที่เบียทริซมาเสนอเรื่องนี้และบอกว่าตัวเองทำงานกับองค์กรสตราต้า วิสต้า นั้นเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ หรือว่าเบียทริซคิดที่จะหักหลังตระกูลเราแล้วแย่งชิงของทั้งหมดไปให้กับเฮอร์นันเดช แต่เบียทริซไม่ตอบเรื่องนั้นและต่อให้ชารอนเอาเรื่องนี้มาบอกเรา เธอก็ไม่ติดอะไร เพราะเธอแค่ "ทำงานให้องค์กรสตราต้า วิสต้า" เฉยๆ แต่ไม่ได้ร่วมอุดมการณ์อะไรกับพวกเขา

[ในฉากภารกิจนี้ได้มีการเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่จะเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลัก โดยคนไหนที่อ่านแล้วยังงงอยู่ ทางเราขอสรุปเรื่องราวดังนี้]
- ทวีปใหม่แท้จริงแล้วคือพื้นที่ต้นกำเนิดของโลก มีเทพเจ้าลงมา เผ่าเออร์รัคคือลูกหลานของบรรพบุรุษผู้สืบสายเลือดเทพเจ้าแท้จริง
- เฟอร์รุชซิโอ้ หนึ่งในผู้ค้นพบทวีปใหม่ ได้มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสายเลือดของเทพเจ้า จนได้กำเนิด "เซียร่า" ออกมา และนำไปฝากไว้ที่บาฮามาร์เพื่อซ่อนตัวเธอ
- องค์กรสตาต้า วิสต้า ล่วงรู้ถึงพลังอำนาจของเทพเจ้าและต้องการจะครอบครอง 
- เมื่อ 20 ปีก่อน ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ พ่อของเอมิเลียได้ไปสำรวจในพื้นที่เออร์รัค และนำพลังของกลุ่มดาว (ที่เป็นพลังที่สืบทอดมาจากเทพเจ้า) มาทดลองกับเอมิเลียลูกสาวตัวเองตอนที่เธออายุเพียงแค่ 4 - 5 ปี (จนทำให้เกิดอีกบุคลิคหนึ่งขึ้นมา) หลังจากนั้น เขาได้เดินทางไปสำรวจที่เออร์รัคต่อเพื่อพยายามค้นหา "โรโดไลท์ ธาตุแห่งไฟ" หนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะเข้าถึงพลังของพระเจ้าได้
- ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ได้ "นาร์" ในวัยเด็กมาเป็นคนนำทางไปสู่ดันเจี้ยนโอกุลตา และกำลังจะเข้าใกล้ความจริง แต่แล้วองค์กรสตราต้า วิสต้า ก็ได้ส่งคณะละครสัตว์ฮาร์เซ็น หน่วยนักฆ่าขององค์กรมาลักพาตัวดอกเตอร์ลอเรนโซ่ไป และหลังจากนั้นไม่นาน เออร์รัคได้เกิดการระะเบิดครั้งใหญ่ ลามมาจนถึงพื้นที่เซเดคราม ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ถูกประกาศว่าเป็นคนที่ทำให้เกิดการระเบิดครั้งนั้น
- และ 20 ปีต่อมาในปัจจุบัน เอมิเลีย ลูกสาวของดอกเตอร์ลอเรนโซ่ (ที่ในเวลาตอนนั้นจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน) เพื่อมาสืบหาร่องรอยของพ่อเธอ เฮอร์นันเดชเลยส่งคณะละครสัตว์อาร์เซ็นเข้ามาเพื่อลอบฆ่าเอมิเลียเพื่อปิดปาก เป้าหมายคือไม่ให้คนอื่นล่วงรู้ถึงเรื่องราวทั้งหมด แต่แผนการก็ล่มเพราะความร่วมมือระหว่างตระกูลผู้เล่นกับอาเนีย ผลจากการนั้น ทำให้เอมิเลียรู้ข้อมูลขององค์กรสตราต้าวิสต้าทุกอย่าง จากเฮเลน่า คนของคณะละครสัตว์ที่ถูกเราจับได้และพาเข้าตระกูล
- หลังจากนั้นไม่นาน เอมิเลียก็ได้ปลุกตัวตนอีกบุคลิคที่เกิดจากการทดลองของพ่อตัวเองในวัยเด็กขึ้นมาและล่วงรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อพ่อของเธอนั้นเปลี่ยนไป
- ส่วนทางฝั่งตระกูลผู้เล่นก็ได้ครอบครองน้ำมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ พลังของธาตุน้ำ หนึ่งในพลังของธาตุทั้งห้า พลังของเทพเจ้า (พลังที่ดิลอส ลาเทมท์ พระสันตะปาปาที่เขาได้ยอมสละชีวิตเอาไว้เพื่อปกป้องโลกแต่ถูกกล่าวหาว่าทรยศต่อมนุษย์ชาติ) เอาไว้กับตัว และช่วยเหลือดอกเตอร์ทอร์ช ศึกษาพลังของโอไทต์ พลังของธาตุลม
- แต่มอนโตโรในเวลานั้นได้ใช้แคทเธอรีนมาเป็นตัวประกันเพื่อหวังแย่งชิงโอไทต์ไป แต่แผนการก็ล้มเหลวเพราะเจอร์แกน พี่ชายของลอร์ชที่ถูกมอนโตโรใช้พลังครอบงำร่างบุกเข้ามาแย่งชิงไปได้
- คอร์เทสที่ศึกษาเรื่องของ "โรโดไลท์ ธาตุแห่งไฟ" และกำลังจะทดลองในพื้นที่เซเดคราม แต่ถูกมอนโตโรขัดขวางและแย่งชิงไป รวมทั้งสาปให้เขากลายเป็นมอนสเตอร์ และถูกประกาศเป็นบุคคลหายสาบสูญ เพราะเฮอร์นันเดชหวังจะเข้ายึดพลังนี้เพื่อหวังเข้าใกล้พลังของเทพเจ้า 
- ส่วนมอนโตโรนั้นก็ได้ใช้พลังบางส่วนและจากการทดลองที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ต้องการจะตัดขาดกับเวสปาโนล่าและสตราต้า วิสต้า เพื่อหวังจะครอบครองพลังของทวีปใหม่เป็นของตัวเองทั้งหมด เฮอร์นันเดชเลยสั่งให้เบียทริซมาลอบสังหารมอนโตโร เวสปาโนล่าเลยประกาศให้มอนโตโรกลายเป็นคนทรยศ และถูกถอดชื่อจากขุนนางทันที
- ปัจจุบัน ชารอนที่ไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดนี้ ได้ตามหาคอร์เทสจนมาถึงปราสาทลูซิเฟอร์และรู้ความจริงจากเรากับเบียทริซ และนั่นจะเป็นหนทางใหม่ที่เธอเลือกที่จะก้าวเดิน เพื่อกอบกู้เกียรติยศของตระกูลคอร์เทส ผู้ที่มีบุญคุณของเธอกลับมาให้ได้

นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เราได้ทราบจากเควสท์ก่อนหน้านี้ แต่ความจริงแล้ว…

 

[2] ความหวังของคอร์เทส
NPC : (ไม่มี)
สถานที่ : ไวรอน (พิกัด F-10)
เป้าหมาย : ไปพบกับชารอน
รางวัล : การ์ดตัวละคร "ชารอน", การ์ด EXP G  เอกซ์เพิร์ธ 3 ชิ้น

          ให้ผู้เล่นไปยังไวรอน พิกัด F-10 (วาร์ปในเมืองไปที่ท่าเรือได้เลยเพื่อความไวในการเดิน) ซึ่งผู้เล่นจะเจอกับชารอนที่นั่น เธอได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าร่วมตระกูลเรา ซึ่งทางเราตกลงรับเธอเข้าแต่ก็ย้ำเตือนกับเธอว่าเรายังไม่ไว้ใจเธอ 100% เธอยอมรับเงื่อนไขนั้น ด้วยการที่เธอจะช่วยพวกเรารวบรวมข้อมูลและเบาะแสของพลังธาตุทั้งห้า ทำให้เราได้รับการ์ดตัวละคร "ชารอน" มาในที่สุด

 

[3] Emilia และ Sharon
NPC : เอมิเลีย (Item Dealer, Emilia)
สถานที่ : ท่าเรือโคอิมบรา (พิกัด J-7)
เป้าหมาย : พาชารอนไปพบกับเอมิเลีย
รางวัล : การ์ด EXP G  เอกซ์เพิร์ธ 3 ชิ้น
เงื่อนไข : ตั้งตัวละคร "ชารอน" เป็นหัวหน้าทีม

          หลังจากนี้จะเป็นเหตุการณ์ต่อและเป็นเควสท์เสริมของชารอน ให้ผู้เล่นสร้างตัวละครชารอน และเอาเข้าทีมผู้เล่น จากนั้นก็ไปพบกับเอมิเลียในท่าเรือโคอิมบรา พิกัด J-7 ซึ่งชารอนได้ยื่นข้อเสนอขอให้เธอช่วยเอมิเลียในการตามหา "โรโดไลท์ ธาตุแห่งไฟ"  ที่เธอเชื่อว่าน่าจะยังอยู่ในดันเจี้ยนโอกุลตาของเออร์รัค
          ชารอนได้ตั้งคำถามให้เอมิเลียขบคิดว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่พ่อของเธอไปที่โอกุลตา และกลุ่มของคณะละครสัตว์อาร์เซ็นได้ไปลักพาตัวเขา ทำไมถึงเกิดการระเบิดได้ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นหัวหน้าคณะอย่างอาร์เซ็นยังมีความสามารถไม่สูง
           ชารอนเลยตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาร์เซ็นในเวลานั้นใช้โรโดไลท์ไม่เป็น ทำให้เกิดข้อผิดพลาดจนเกิดระเบิดครั้งใหญ่ในเออร์รัค พวกเขาเลยลักพาตัวพ่อของเอมิเลียไปและให้ทางการเวสปาโนล่าประกาศว่าพ่อของเธอทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่นั่นเอง 

          อย่างไรก็ตาม เอมิเลียจะเริ่มสับสน เพราะหลังจากที่เธอรู้ความจริงที่พ่อของเธอได้ทำกับเธอในอดีต เธอจึงมองพ่อตัวเองไม่เหมือนเดิม แต่เรื่องของโรโดไลท์ที่พ่อของเธอค้นพบเมื่อ 20 ปีก่อนก็กระตุ้นความอยากรู้ของเธอว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเวลานั้นกันแน่ เธอจึงเริ่มกังวลและสับสนความคิดของเธอ

          หลังจากนั้นให้ผู้เล่นไปหาเอ็มโบม่าที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเธอ เอ็มโบม่าจะกังวลที่เห็นเอมิเลียทำท่าเครียดๆ เพราะปกติเอมิเลียจะมีท่าทางสดใสตลอดเวลา เลยคุยกับว่าน่าจะหาอาหารอร่อยๆ หวานๆ มาให้เอมิเลียกิน ให้ผู้เล่นไปหาลิซ่า ในคาเฟ่สิงโตทะเล (พิกัด G-9) แล้วให้เลือกหัวข้อ "Sharon Stace Quest 1" ในฐานะที่ลิซ่าเองก็รู้จักกับเอมิเลียมาตั้งแต่เด็กๆ พอเราเล่าเรื่องของเอมิเลียให้ฟัง เธอก็เข้าใจได้ทันทีและอยากจะเตรียมช็อกโกแลตอร่อยๆ ให้ โดยจะขอให้เราไปหาวัตถุดิบต่างๆ มาให้ดังนี้

- Taurus's Milk 10 ชิ้น หาได้ "ทอร์ส" จากพื้นที่บาฮามาร์ (แนะนำที่หนองน้ำบาฮามาร์)

- Arcitc Lazim-lam's wing pieces 10 ชิ้น หาได้จาก "สโนว์ฟิลด์ ลาซิม-ลัม" ในดินแดนสีขาว (อยู่เยอะเป็นพิเศษ แถวๆ พิกัด F-4)

- Superior Quality คาบอส 10 ชิ้น ได้จาก "คาพิบารา" อับเบอร์ทัล

หลังจากได้ทั้งหมดครบแล้ว ก็กลับมารายงานกับลิซ่า แล้วเธอจะทำขนมพิเศษให้กับเอมิเลีย เควสท์ก็จะเสร็จสมบูรณ์

Tips: หลังจากนี้ผู้เล่นจะสามารถทำเควสท์ซ้ำกับลิซ่าได้ โดยหากต้องการรับเควสท์ ให้เลือก "ข้าต้องการ ช็อกโกแล็ตรูปสมองที่กำลังละลาย" ได้ โดยจะสามารถรับทำได้วันละ 1 ครั้ง

 

[4] Emilia หดหู่
NPC : เอมิเลีย (Item Dealer, Emilia)
สถานที่ : ท่าเรือโคอิมบรา (พิกัด J-7)
เป้าหมาย : ดำเนินเรื่องราวสืบหาความจริง
รางวัล : การ์ด EXP G  เอกซ์เพิร์ธ 3 ชิ้น
เงื่อนไข : ต้องมีตัวละคร "ชารอน" และ "เอมิเลีย" พร้อมแสตนบาย "อาเนีย" อยู่ในทีมด้วย

 

(ต่อจากนี้จะเป็นเควสท์ยาว)


          ให้ผู้เล่นเอา "ช็อกโกแล็ตรูปสมองที่กำลังละลาย" ที่ได้มาจากลิซ่าไปให้เอมิเลีย ซึ่งหลังจากที่เธอทานแล้ว เธอจะคิดได้แค่ว่าถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ก็คงไม่ช่วยอะไร เธอจะจึงตัดสินใจไปสืบหาเรื่องราวนี้ด้วยตัวเอง ให้ผู้เล่นไปที่เออร์รัค แล้วไปพบกับอาเนีย ในพิกัด H-9 (ค้องมีทั้งชารอนและเอมิเลียอยู่ในทีม)
          ซึ่งทั้งเอมิเลียกับชารอนต้องการข้อมูลเรื่องเบาะแสของโรโดไลท์จากอาเนีย แต่อาเนียปฏิเสธ เพราะหากผิดพลาด โรโดไลท์อาจทำให้เออร์รัคระเบิดอีกครั้งเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อนได้ เกมจะตัดสู่ฉากภารกิจ อาเนียเลยตั้งใจจะขัดขวางทั้งเอมิเลียและชารอน เอมิเลียเลยไม่มีทางเลือก ต้องสู้และเอาชนะเธอให้ได้


           เมื่อเอาชนะได้แล้ว คุยกับอาเนียอีกครั้ง แม้เอมิเลียจะขอโทษอาเนีย แต่อาเนียก็ได้ตอบกลับมาแค่ว่า "แล้วเธอจะเสียใจ" จากนั้น ให้ผู้เล่นกลับไปบาร์แรค แล้วเอาทุกตัวละครออกยกเว้นชารอน (ให้มีชารอนคนเดียวในทีม) แล้วให้ไปที่พิกัด I-7 ในเออร์รัค
           เกมจะเข้าสู่ฉากภารกิจ ที่ชารอนแอบมาพบกับเบียทริซ ซึ่งเบียทริซได้บอกคำใบ้กับชารอนมาว่า ของที่กำลังตามหานั้น อยู่ในดันเจี้ยนป้อมปราการ โอกุลดา แล้วเบียทริซจะให้ "น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งเป็นพลังของธาตุน้ำมาให้ ก่อนที่เธอจะจากไป 

          หลังจากนั้นให้ผู้เล่นกลับไปยังบาร์แรค จัดทีมให้มี "ชารอน" และ "เอมิเลีย" อยู่ในทีมเดียวกัน (ใส่ตัวละครอีกคนในทีมได้) แล้วเข้าไปในดันเจี้ยน "โอกุลตา" พิกัด F-3 (หรือด้านในเกือบสุด) ซึ่งมีร่องรอยของ "โรโดไลท์" หรือ "พลังของธาตุไฟ" หลงเหลืออยู่ ชารอนเลยได้น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มาจากเบียทริซทำปฏิกิริยา (ด้วยหลักการ น้ำชนะไฟ) ปฏิกิริยาลูกโซ่จึงได้เกิดขึ้น และทำให้ชารอนกับเอมิเลียได้เห็นนิมิตที่เกิดขึ้นในอดีต ณ ที่แห่งนี้ เมื่อ 20 ปีก่อน

          ในฉากภารกิจนั้นเราจะได้เห็น ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ หรือพ่อของเอมิเลียอยู่กับ "จาร์เล็น" พ่อของฮาร์มัน ที่เป็นอดีตผู้นำเผ่าของเออร์รัคในเวลานั้น ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ได้พาจาร์เล็นมาในพื้นที่ป้อมปราการด้านในสุด และให้จาร์เล็นใช้พลังของธาตุไฟเพื่อดึงมาใช้เพื่อเผ่าเออร์รัค
          แต่ทว่า หลังจากที่จาร์เล็นได้ใช้พลังแห่งธาตุไฟ ก็กำลังจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นมาและไม่สามารถยับยั้งเหตุหายนะครั้งนี้ได้ ดอกเตอร์ลอเรนโซ่เลยบอกวิธีเดียวก็คือ "ต้องให้ผู้ที่สืบสายเลือดของเทพเจ้าสังเวยชีวิตเพื่อลดพลังอำนาจการระเบิดซะ" จาร์เล็นจึงยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อรับผิดชอบในการตัดสินใจแม้เขาจะรู้ว่าโดนลอเรนโซ่หลอกก็ตาม

เพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ขอเล่าเรื่องราวของเกร็ดประวัติศาสตร์ของเกมนี้ให้อ่านกัน
เกร็ด : เผ่าเออร์รัคกับพลังของธาตุ และสายเลือดของเทพเจ้า

ออร์แดน บุตรแห่งเทพเจ้าดวงดาว ผู้รับพลังแห่งธาตุลม และมองว่ามนุษย์เนื้อร้ายจนต้องการกำจัดมนุษย์โดยการก่อสงคราม

          ประวัติศาสตร์ของทวีปกรานาโด เอกพาด้า นั้นมีมามากกว่า 5,000 ปีก่อนศักราช เล่าแบบสั้นๆ คือ พระเจ้าแห่งดวงดาวได้สร้างโลกนี้เอาไว้ ผนึกความมืดจากอบิส (เพราะไม่สามารถทำลายได้ เพราะหากทำลาย โลกก็จะถูกทำลายไปด้วย) และส่งตัวแทนของเขาทั้ง 5 คนมาเป็นตัวแทนเทพเจ้าเพื่อเฝ้ามองเหล่ามนุษย์ และลูกๆ ทั้ง 5 คนนี้ก็คือตัวแทนพลังแห่งธาตุต่างๆ ทั้ง 5 ได้แก่ ไฟ, ลม, หัวใจ, น้ำ และดิน
          แต่ทว่าลูกแห่งธาตุลมที่ชื่อ "ออร์เดน" กลับมองว่ามนุษย์คือเนื้อร้ายและต้องกำจัดมนุษย์ เทพแห่งดวงดาวจึงได้ส่งพลัง "อาวุธกลุ่มดาว" มาช่วยมนุษย์สู้กับออร์แดนที่ชนะในที่สุด และปิดผนึกออร์เดนเอาไว้ในคุกแห่งนิรันดร์ (เพราะออร์เดนเป็นอมตะ ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บุรุษนามว่า "สตราต้าวิสต้า" ได้สร้างเมืองเออร์รัคขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเทพเจ้าและ "ปกป้องประตูสู่สรวงสวรรค์" เอาไว้นับแต่นั้นเป็นต้นมา

อาเนีย ตอนที่เล่าเรื่องลิทธิของสตราต้า วิสต้า ให้เอมิเลียฟัง

           จากเนื้อเรื่องของเฮเลน่าก็ได้บอกว่า คนของเออร์รัคได้มีการแบ่งฝ่ายกัน ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะต้องเคารพบูชาเทพเจ้าจึงได้แยกตัวออกไปจากเออร์รัคและมุ่งสู่ดินแดนแห่งใหม่ (นั่นก็คือทวีปโอเปอร์เซีย หรือก็คือดินแดนต่างๆ ทั้งเวสปาโนล่า ทาร์กา อาโมเนีย ที่ผู้คนเรียกกันว่าเป็นทวีปใหม่) พวกที่แยกตัวออกมานั้นได้ตั้งตัวเองเป็นลิทธิสตราต้า วิสต้า ขึ้นมาเพื่อหวังที่จะครอบครองโลกและกลายเป็นเทพเจ้าเสียเอง
          ในตอนนั้น "ไวโอเลนเต้" หนึ่งในสมาชิกเดิมของสตราต้าวิสต้า ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว จึงได้แยกตัวออกมาและไปเจอกับ "ออร์เดน" ที่ถูกผนึกเข้า เธอได้รับพลังจากออร์เดน และได้ตั้งกลุ่ม "ไวโอเลนเซีย" เพื่อทำสงครามขัดขวางกับสตราต้า วิสต้า
          แต่ทว่า สงครามที่ลากยาวมาทำให้ผู้คนเบื่อหน่ายกับสงคราม จึงได้วางแผนก่อกบฎโดยการลอบสังหาร "ไวโอเลนเต้" ทำให้สงครามหยุดลง สตราต้า วิสต้า ได้หายไปจากประวัติศาสตร์ ซึ่งในเวลาต่อมา ผู้คนในทวีปโอเปอร์เซียได้ก่อตั้งประเทศต่างๆทั้ง 5 ประเทศ
          ทว่า ลิทธิสตราต้าวิสต้า ยังไม่หายไปไหน ยังแอบซุ่มอยู่ในเงามืดและชักใยสร้างความปั่นป่วนอยู่ในเบื้องหลังตามประวัติศาสตร์แต่ละประเทศ ส่วนไวโอเลนเต้นั้นแม้จะตายไปแล้ว แต่พลังจากเทพเจ้าที่ได้รับมาจากออร์เดน ทำให้วิญญาณของเธอยังอยู่ เธอได้ทิ้งเรื่องราวมากมายของสตราต้า วิสต้า เพื่อให้เหล่าคนรุ่นหลัง ใช้ประโยชน์จากบันทึกเพื่อต่อต้านลิทธิสตราต้า วิสต้า และรอคอยที่จะได้ปลดผนึกออร์แดนให้กลับสู่โลกอีกครั้ง

เกร็ดเพิ่มเติม

ชื่อของไวโอเลนเซียได้ถูกสานต่อ โดยกลุ่มของตัวแทนผู้ต่อต้านลิทธิสตราต้า วิสต้า ในปัจจุบัน ซึ่งมีตระกูลผู้เล่นเข้าร่วมด้วย โดยชื่อนี้ได้มีการใช้อย่างเป็นทางการ ในเควสท์ของไวรอน หลังจากการกำจัดมอนโตโรได้แล้ว

เฮเลน่าเล่าเรื่องของดอกเตอร์ลอเรนโซ่ให้ฟัง ซึ่งไม่ตรงกับที่เฮเลน่าเล่ากับความจริงที่เอมิเลียเห็นในนิมิต

          เพราะเออร์รัคเป็นเผ่าที่สืบเชื้อสายมาจากสายเลือดของเทพในอดีต จึงทำให้ได้รับพลังของธาตุไฟ แต่บรรพบุรุษนั้นได้ผนึกพลังนั้นเอาไว้เพราะเป็นพลังที่อันตราย แต่ในเวลานั้น จาร์เล็น ที่คิดถึงแต่เผ่าแต่ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนภายนอกอย่างดอกเตอร์ลอเรนโซ่ เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเกิดการระเบิดในเวลานั้น
          โดยหลังจากนั้นเนื้อหาจะตรงตามที่นาร์และเฮเลน่าเล่าก็คือ ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ถูกอาร์เซ็น องค์กรนักฆ่าที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฟิลิปเป้ (ภายใต้การชี้นำของเฮอร์นันเดช จากลิทธิสตราต้า วิสต้า) ลักพาตัวไป แต่เรื่องราวความจริงที่เอมิเลียและชารอนได้เห็นนั้นต่างจากที่เฮเลน่าเล่ามาอย่างลิบลับ เพราะเฮเลน่าเข้าใจว่าดอกเตอร์ลอเรนโซ่ถูกใส่ร้าย
          แต่จริงๆ แล้ว ตัวดอกเตอร์ลอเรนโซ่ต่างหาก ที่เป็นคนทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ เพราะไม่รู้พลังอนุภาพของพลังธาตุแห่งไฟ และไปยุ่งกับ "สิ่งที่มนุษย์ไม่ควรไปแตะต้องเข้า”


          กลับมาที่เกม หลังจากชมฉากภารกิจเสร็จแล้ว จะมีเสียงอีกด้านของด้านใน ให้ผู้เล่นกดที่ประตู เกมจะเข้าสู่ฉากภารกิจ และเราจะได้เจอกับ "ฮาร์มัน" หัวหน้าเผ่าเออร์รัคคนปัจจุบันที่นี่ เธอได้เล่าว่าเธอตามสืบเรื่องของพ่อตัวเองอย่างจาร์เล็น
          จนได้รู้ความจริงว่าพ่อของเธอโดนดอกเตอร์ลอเรนโซ่หลอก และเพราะเอมิเลียกับชารอนได้รู้ความจริงแล้ว เธอเลยคิดที่จะฆ่าปิดปาก ให้ผู้เล่นเอาชนะฮาร์มันให้ได้ แต่ถึงแม้ฮาร์มันจะมีสายเลือดของเทพเจ้าในตัว แต่เพราะเป็นเกม เธอเลยไม่สามารถสู้เอมิเลียกับชารอนได้
         แต่ถ้าอิงตามเนื้อเรื่อง เอมิเลียได้รับพลังของกลุ่มดาวมาแล้ว และพลังของกลุ่มดาวก็เป็นพลังที่สู้กับสายเลือดของเทพเจ้า ด้วยเหตุนี้ ฮาร์มันจึงไม่สามารถสู้เอมิเลียได้นั่นเอง

          หลังจากเอาชนะเธอได้ ให้ผู้เล่นไปยังเออร์รัคและไปหาฮาร์มันที่พิกัด F-3 (หากยังไม่ได้ทำเควสท์กลุ่มดาว ให้เลือกหัวข้อ [Trickeis] เควสท์ได้รับ Stance) โดยเอมิเลียต้องการให้ฮาร์มันเล่าเรื่องของพ่อของเธอที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เดิมทีฮาร์มันจะไม่ยอมเล่า แต่เพราะเธอแพ้จากการต่อสู้ เธอเลยจะยอมเล่า และให้เรียกอาเนียมาด้วย
         ให้ผู้เล่นเอาตัวละคร "อาเนีย" เข้ามาในทีม (ในทีมจะต้องมี "ชารอน" , "เอมิเลีย" และ "อาเนีย" อยู่ในทีมเดียวกันถึงจะสามารถทำเควสท์ต่อไปได้) แล้วกลับมาคุยกับฮาร์มันต่อ และนั่นทำให้ความจริงทั้งหมดเปิดเผย

- เมื่อ 20 ปีก่อน เออร์รัคอยู่ในสถาวะวิกฤต ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ได้เข้ามาในจังหวะที่ถูกพอดีราวกับวางแผนเอาไว้แล้ว
- ผู้นำเออร์รัคตอนนั้น หรือก็คือจาร์เล็น พ่อของฮาร์มัน รู้สึกสิ้นหวังในสถานการณ์ตอนนั้น เลยเชื่อดอกเตอร์ลอเรนโซ่อย่างง่ายดาย
- ดอกเตอร์ลอเรนโซ่หลอกว่า คนของเออร์รัคจะสามารถควบคุมพลังของธาตุไฟได้ เลยให้จาร์เล็นใช้พลังของธาตุ ทำให้เกิดการระเบิดของเออร์รัคขึ้นมา 
- จาร์เล็นกลายเป็นปีศาจ สัตว์รอบๆ เมืองได้กลายพันธุ์ด้วยผลจากการระเบิดจนทำให้กลายเป็นมอนสเตอร์จนถึงทุกวันนี้
- คนของเออร์รัคในเวลานั้นไม่ทราบว่าปีศาจตัวนั้นคือจาร์เล็น จึงพยายามไปกำจัดแต่ก็ถูกฆ่าตายไปหลายคน
- ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ได้กลับมาที่เออร์รัคอีกครั้งหลังจากเกิดระเบิด และไปหาฮาร์มัน โดยบอกความจริงกับเธอว่าปีศาจตัวนั้นคือพ่อของเธอ รวมทั้งไปบอกกับคนอื่นๆ อย่างอาเนีย เพื่อทำทีบอกข้อมูลของลัทธิสตราต้าวิสต้า เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
- และในภายหลัง ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ได้ให้นาร์ในวัยเด็ก นำทางเขาไปยังจุดที่ระเบิด ซึ่งหลังจากนั้นเขาถูกอาร์เซ็น นักฆ่าของคณะละครสัตว์ มาลักพาตัวไป
- ฮาร์มันในตอนนั้นที่ยังเด็ก และเมื่อรู้ความจริงที่เจ็บปวดว่าปีศาจที่เข่นฆ่าชาวเออร์รัค พวกพ้องของเธอนั้นแท้จริงคือพ่อของเธอเอง และเธอก็กลัวความลับเรื่องนี้เผยแพร่ เธอจึงใช้พลังของธาตุ "เปลี่ยนแปลงความทรงจำ" ของนาร์และอาเนียใหม่ 
- อาเนียจะรู้ข้อมูลของลัทธิสตราต้า วิสต้า แต่จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนบอก 
- ส่วนนาร์นั้น ฮาร์มันเปลี่ยนความทรงจำให้เสมือนนาร์พาดอกเตอร์ลอเรนโซ่ไปยังจุดเกิดก่อนการระเบิด เนื่องจากนาร์เป็นพยานคนเดียวอีกคนที่รู้ว่าดอกเตอร์ลอเรนโซ่ทำอะไร
- เรื่องทั้งหมดนี้เลยกลายเป็นความทรงจำที่เข้าใจผิดกันมาจนถึงปัจจุบัน ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ไม่ได้ถูกลัทธิสตราต้า วิสต้าหมายตัวและลักพาตัวไป
- แต่เขาต่างหาก คือคนของสตราต้าวิสต้า มาตั้งแต่แรก และได้หลอกใช้ จนทำให้มีคนบริสุทธิ์จำนวนมากต้องตาย

ภาพตอนที่เซียร่าสั่งให้มอนสเตอร์หยุดโจมตีเราจากในเควสท์บาฮามาร์ พาร์ท 1 ที่แสดงให้เห็นว่า พลังของเทพเจ้าในตัวของเซียร่า ทำให้เธอสื่อสารกับสัตว์และมอนสเตอร์ในป่าได้

เพิ่มเติม : นอกจากฮาร์มันที่เป็นผู้สืบสายเลือดของเทพเจ้าแล้ว อีกคนที่มีพลังของเทพเจ้าในตัวก็คือ "เซียร่า" ที่อยู่ในบาฮามาร์นั่นเอง แต่เซียร่าไม่ได้มีพลังควบคุมความทรงจำแบบที่ฮาร์มันมี และเธอก็ยังไม่เข้าใจว่าพลังของธาตุ ซึ่งเป็นพลังของเทพเจ้าที่มีในตัวเธอทำอะไรได้บ้าง เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเซียร่าถึงสามารถคุยกับสัตว์และมอนสเตอร์ในบาฮามาร์ได้ (ยกเว้นมอนสเตอร์ที่โดนพลังของธาตุควบคุมด้วยผลจากการไปตั้งอนุสรณ์นักสำรวจของขุนนางอิกอร์นี ที่ตอนนั้นทำตามคำแนะนำของชารอนไปโดยไม่รู้ตัว) 

จากในเควสท์ของเซลวา นอร์ท “เลโอโนรา” ที่ได้เปิดเผยให้เรารู้คนแรกว่า พ่อของเซียร่าก็คือเฟอร์รุซซิโอ้ 

          และเหตุผลที่เซียร่ามีพลังของเทพอยู่ในตัวครึ่งหนึ่ง ซึ่งจากเนื้อเรื่องของเซลวานั้น ได้มีคำตอบอยู่แล้วว่า พ่อของเธอคือ เฟอร์รุซซิโอ้ ได้พบรักกับลูกหลายของผู้สืบเชื้อสายของเทพเจ้า ซึ่งคนรักของเฟอร์รุซซิโอ้ และผู้เป็นแม่ของเซียร่านั่นก็คือ "ฮาร์มัน ผู้นำเผ่าเออร์รัคคนปัจจุบันนั่นเอง!" 

          หลังจากนั้นให้ผู้เล่นไปยังท่าเรือโคอิมบราเพื่อไปหาอาเนีย โดยต้องให้ชารอนเป็นหัวหน้าทีม เอมิเลียที่ได้รู้ความจริงทั้งหมดนั้นทำให้เธอเสียใจเรื่องของพ่อเธออย่างมาก ชารอนที่เห็นดังนั้น จึงตัดสินใจทำตามที่รับปากไว้ตั้งแต่แรกกับเราทันทีโดยไม่ลังเล นั่นก็คือ "จะไปเอา โรโดไลท์ พลังของธาตุไฟ ที่น่าจะยังอยู่ในจุดที่เกิดการระเบิดนั้่น เอามาให้กับตระกูลเราให้ได้”

เกร็ด : พลังที่ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ทดลองกับเอมิเลียวัยเด็ก

          จากเนื้อเรื่องของเอมิเลียด้านมืด ทำให้เรารู้ว่าดอกเตอร์ลอเรนโซ่ทดลองอะไรบางอย่างกับเธอตั้งแต่อายุแค่ 5 - 6 ปี แต่เพราะตอนนั้นเอมิเลียยังเด็ก เลยยังไม่รู้และไม่เข้าใจการกระทำของพ่อตนเอง แต่ตอนนี้ทำให้ทราบแล้วว่า ดอกเตอร์ลอเรนโซ่อาจได้ใช้ "พลังแห่งกลุ่มดาว" พลังที่เทพในอดีตประทานให้มนุษย์สู้กับออร์เดนเอาไว้
          ซึ่งเขาค้นพบในเออร์รัคมาทดลองกับลูกสาวตัวเอง และเพราะเอมิเลียไล่ตามร่องรอยของพ่อจนมาถึงเออร์รัคและได้ศึกษาพลังของกลุ่มดาว ไม่รู้ว่านี่เป็นความบังเอิญหรือโชคชะตา ที่ทำให้พลังของกลุ่มดาวปลุกอีกบุคลิคหนึ่งที่ซ่อนตัวมาตลอด 20 ปีในตัวของเอมิเลีย
          บุคลิคที่ดอกเตอร์ลอเรนโซ่ได้ทดลองด้วยพลังแห่งกลุ่มดาวให้ตื่นขึ้น แต่ถามว่าทำไมเขาถึงทดลองกับลูกสาวตัวเอง และเพราะอะไร เรื่องนี้เรายังไม่รู้ และเพราะเอมิเลียไล่ตามร่องรอยพ่อของเธอจนมาถึงเออร์รัคจนล่วงรู้พลังของกลุ่มดาว ลัทธิสตราต้า วิสต้า จึงส่งคณะละครสัตว์อาร์เซ็นมาลอบฆ่าเธอเพื่อปิดปาก
          แต่เพราะโชคดีที่เอมิเลียอยู่ในตระกูลของเราและเราก็ขัดขวางเอาไว้ได้ แผนการลอบสังหารเอมิเลียจึงไม่สำเร็จ แถมทำให้เธอรู้ความจริงอีกด้วย

[กลับมาที่เกม] หลังจากนั้นให้ผู้เล่นไปยังเออร์รัค และไปพบกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 3 คนตามลำดับ ได้แก่ นาร์, อาเนีย และฮาร์มันเป็นคนสุดท้าย

- เพราะนาร์ถูกฮาร์มันเปลี่ยนความทรงจำและปกปิดความจริงตามใจชอบ โกหกทั้งเขา ทั้งอาเนีย และคนของเออร์รัคทุกคน เขาจะไม่ให้อภัยกับเธอไม่ว่ายังไงก็ตาม

- อาเนียนับถือจาร์เล็น พ่อของฮาร์มันที่เป็นผู้นำเผ่าของเออร์รัคในเวลานั้นมาก ไม่ว่าตอนนั้นจะเกิดวิกฤตอะไรก็ตาม จาร์เล็นจะเป็นคนที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนในเผ่า แม้วิธีการที่สุดท้ายจะกลายเป็นการโดนหลอกใช้ แต่สิ่งที่เธอกังวลมากกว่าก็คือความรู้สึกของนาร์ เพราะนาร์รู้สึกผิดกับเอมิเลียและคนในเผ่ามาโดยตลอด แถมเมื่อความจริงปรากฎเรื่องก็ตาลปัตรไปอีก คงทำได้แค่รอให้เวลาเยียวยาจิตใจของนาร์ ให้เขาผ่านไปให้ได้

- และฮาร์มัน เธอยอมรับกับเราว่าเธอพยายามปกปิดความจริงเรื่องนี้กับเรามาตั้งแต่แรกแต่สุดท้ายเมื่อคนที่เกี่ยวข้องที่สุดอย่างเอมิเลียได้ปรากฎตัวมาที่เออร์รัค ความจริงที่ถูกซ่อนไว้ก็เปิดเผย เธอจะไม่ขอให้เรายกโทษให้เธอ แต่เธอจะชดใช้เราในสิ่งที่เธอทำได้ และเธอบอกกับเราว่าเมื่อพวกเราพร้อมแล้ว ให้เข้าไปในโอกุลตาพร้อมกับชารอน แล้วเธอจะแสดงบางอย่างให้เห็นว่า เซียร่ายังไร้เดียงสาต่อพลังที่เธอมีเกินไป


          เมื่อผู้เล่นเตรียมพร้อมแล้ว ให้พาชารอนเข้าทีม (อีกสองคนจะเป็นใครก็ได้) แล้วกลับไปยังจุดที่เห็นนิมิต ในดันเจี้ยนโอกุลตา พิกัด F-3 ที่เดิม ซึ่งเกมจะเข้าสู่ฉากภารกิจทันที เราจะเจอกับ "จาร์เล็น" หรือตอนนี้ได้กลายเป็นปีศาจที่ชื่อ "มูฟาซา" ไปแล้ว ที่เขายังสิงสู่วนเวียนในที่แห่งนี้ ให้เรากำจัดเขาให้ได้ เพื่อปลดปล่อยเขาจากการถูกจองจำในที่แห่งนี้
          เมื่อกำจัดได้แล้ว เราก็จะได้เจอกับ "ลูกแก้วโรโคไลท์แห่งไฟ" พลังของธาตุไฟมาไว้กับตัวได้สำเร็จ พร้อมแสตนซ์ของชารอนอีกด้วย 
          (จากคำพูดของฮาร์มันที่บอกว่าจะชดเชยนั้น แสดงว่า ฮาร์มันรู้อยู่แล้วว่า ธาตุแห่งไฟ ลูกแก้วโรโคไลท์นั้นยังอยู่กับพ่อเธอที่กลายเป็นปีศาจ เธอจึงยอมปล่อยให้พวกเราเข้าไปเผชิญหน้ากับพ่อของเธอ เพื่อเอาโรโคไลท์มาได้นั่นเอง)

 

[5] เรื่องราวความลับของ - Strata Vista
NPC : (ไม่มี)
สถานที่ : เออร์รัค (พิกัด I-7)
เป้าหมาย : ความจริงอีกอย่าง
รางวัล : การ์ด EXP G  เอกซ์เพิร์ธ 3 ชิ้น
เงื่อนไข : ต้องมีตัวละคร "ชารอน" 1 คนในทีม

          ให้ผู้เล่นเอาตัวละครออกให้หมดและมีชารอนเพียง 1 คนในทีม จากนั้นพาเธอไปยังเออร์รัค พิกัด I-7 (จุดเดียวกันกับที่เจอกับเบียทริซ) แล้วเกมจะเข้าสู่ฉากภารกิจ ชารอนจะพบกับเบียทริซ ซึ่งเบียทริซได้แจ้งข่าวดีกับชารอนว่า เธอได้ยื่นหลักฐานการเสียชีวิตของคอร์เทสให้กับทางการแล้ว
          ดังนั้นชารอนไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นอีกต่อไป (เผื่อคนไหนลืม ชารอนยอมมาร่วมมือกับตระกูลเรา เป้าหมายแรกของเธอก็คือ การกอบกู้เกียรติยศของตระกูลคอร์เทสและป้องกันไม่ให้เฮอร์นันเดชหาเรื่องยึดผลวิจัยธาตุไฟจากคอร์เทสและสินทรัพย์ของเขาไป) แต่แล้ว เบียทริซก็ได้ให้คำตอบอีกอย่างที่น่าตกใจว่า
          ดอกเตอร์ลอเรนโซ่นั้นเดิมที เขาได้คิดที่จะ "ทรยศลัทธิสตราต้า วิสต้า ตั้งแต่แรกแล้ว" โดยการร่วมมือกับอีกคนหนึ่งที่ค้นพบเส้นทางสู่สวรรค์ในกรานาโด เอสพาด้า ซึ่งเป็นผู้ทรยศลัทธิสตราต้า วิสต้า อีกคนหนึ่ง คนๆ นั้นก็คือ "เฟอร์รุชซิโอ้" นั่นเอง ใช่แล้ว! เฟอร์รุซซิโอ้ ก็เป็นคนของลัทธิสตราต้า วิสต้า มาโดยตลอด (เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะไม่สามารถหาเบาะแสจนมาถึงเออร์รัคและพลังของธาตุ รวมทั้งเส้นทางสู่สวรรค์ได้ลึกขนาดนี้ 

เฟอร์รุชซิโอ้ หนึ่งในสองผู้ค้นพบกรานาโด เอกพาด้า ที่แท้จริงแล้วเขานั้น....

          โดยแผนการของลอเรนโซ่ก็คือ การหลอกลวงคนในองค์กรเรื่องที่การตามหาธาตุไฟให้เจอในเออร์รัค แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดจนเกิดการระเบิด ซึ่งในความเป็นจริงคือ เขาได้กระทำแบบนั้นก็เพื่อให้จาร์เล็น ผู้นำของเออร์รัคในเวลานั้น กลายเป็นปีศาจ "เพื่อปกป้องธาตุไฟให้พ้นจากเงื้อมมือขององค์กรสตราต้า วิสต้า พร้อมกับตบตาพวกนั้นไปด้วยพร้อมกันอย่างแนบเนียน" และการที่เขากลับมายังเออร์รัค ก็เพื่อเกลี้ยกล่อมฮาร์นันให้ปกปิดเรื่องราวทั้งหมดนี้เอาไว้
          และสอนวิธีการ "บิดเบือนความทรงจำ" ให้กับฮาร์มัน ซึ่งจะเป็นคนเดียวที่สามารถทำได้ เนื่องจากฮาร์มันมีสายเลือดของเทพเจ้าอยู่ นั่นแปลว่า ลอเรนโซ่ ได้จงใจไปบอกเรื่องขององค์กรสตราต้า วิสต้ากับอาเนีย ก่อนที่จะให้ฮาร์นันบิดเบือนความทรงจำของอาเนีย และให้ฮาร์มันเปลี่ยนความทรงจำของนาร์ใหม่ เพื่อเป้าหมายคือ การถ่ายทอดเรื่องราวของลัทธิสตราต้า วิสต้า ให้โลกรู้ ผ่านคำพูดของอาเนีย

เฮเลน่า ตอนบอกเรื่องราวของลอเรนโซ่ให้เอมิเลียฟัง

          ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากคำพูดของการให้ปากคำของเฮเลน่า ดูเหมือนว่าอาร์เซ็นได้เข้ามาเพื่อหวังลักพาตัวดอกเตอร์ลอเรนโซ่ไปจริงๆ ตามคำสั่งของเฮอร์นันเดช  แต่ลอเรนโซ่อาจจะใช้กลอุบายบางอย่างโดยการร่วมมือกับเฟอร์รุซซิโอ้ แล้วก็หายไปนับจากนั้น ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่เบียทริซก็ไม่รู้ เพราะ "เฟอร์รุซซิโอ้ไม่ได้บอกอะไรกับเบียทริซ" เบียทริซบอกได้แค่ว่า เธอกับเขามีความสัมพันธ์ในแบบ "ต่างคนต่างกุมความลับของอีกฝ่ายเอาไว้" ทำให้ไม่สามารถก้าวก่ายหรือถามข้อมูลอะไรจากอีกฝ่ายกันได้ จึงแปลว่า มีแต่เฟอร์รุซซิโอ้เพียงคนเดียว ที่จะรู้ว่าตอนนี้ดอกเตอร์ลอเรนโซ่อยู่ที่ไหน และหลบหนีไปได้ยังไงนั่นเอง

          การที่ชารอนได้เข้าร่วมตระกูลเรา นอกจากเธอจะสามารถกู้คืนเกียรติยศของตระกูลคอร์เทสเพื่อตอบแทนบุญคุณได้แล้ว อีกหนึ่งเป้าหมายที่เธอได้ตั้งใจเอาไว้แล้วก็คือ "การร่วมมือกับตระกูลเราเพื่อกำจัดเฮอร์นันเดช เพราะเฮอร์นันเดชเป็นสาเหตุหลักสำคัญ ที่ทำให้คอร์เทสต้องตายนั่นเอง" และเรื่องราวยังไม่จบ สุดยอดเรื่องราวของเกมนี้จะได้สานต่อใน "เควสท์เนื้อเรื่องหลัก บาฮามาร์ พาร์ท 2" นั่นเอง!

 

 

-------------------------------------------------------------------------------------
• Official Website : https://granadoespada.in.th/
• Fanpage : https://www.fb.com/GranadoEspadaExtreme
 • เข้าร่วมกลุ่มพูดคุย : https://exe.in.th/ge-commu